รีวิว MEDICI Kitchen & Bar
สวัสดีกันอีกครั้ง...วันนี้ On The Jet Plane จะพาทุกท่านไปทานอาหารที่อิตาลีกัน แต่ว่าอิตาลีของเราในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องบินไปแต่อย่างใด เพียงแค่ขับรถมาถึงหลังสวน (ไม่ใช่ชุมพรนะ 555) ก็เจอแล้วกับโรงแรมโฮเทล มิวส์ แบงค็อก ใจกลางซอยหลังสวน ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน Boutique Hotel คอลเลกชั่นพิเศษของทาง M Gallery ที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เรียกว่าเปิดประตูเข้ามาก็เหมือนกับว่าอยู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นเรื่องการตกแต่งและคอนเซ็ปของทางโรงแรมเรียกได้ว่าไม่เป็นรองใครแน่นอน มีมุมถ่ายภาพเพียบบบบ ถูกใจสาวๆ ชัวร์
Hotel Muse Bangkok
ตามที่บอกไว้ว่าเราจะพาไปอิตาลีกัน ดังนั้นในวันนี้เราจึงขอพูดถึงเฉพาะส่วนของห้องอาหารเมดิชี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ (Medici Kitchen & Bar) ที่ถือเป็นห้องอาหารอิตาเลี่ยนแบบดั้งเดิมขนานแท้ แท้ชนิดที่ว่าชื่อของห้องอาหารยังได้นำมาจากชื่อของตระกูลเมดิชี ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ผู้ซึ่งเคยมีอิทธิพลอย่างมากในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
ส่วนเชฟก็แน่นอนว่าต้องเป็นเชฟชาวอิตาเลียนโดยกำเนิด อย่างเชฟจูเลียโน เบอร์ตา ที่บ่มเพาะฝีมือการทำอาหารและความรู้ทางโภชนาการส่งต่อมาจากครอบครัวมาผนวกรวมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดเป็นที่สุดแห่งประสบการณ์การทานอาหารอิตาเลียนใจกลางกรุงเทพ ที่พลาดไม่ได้คือเมนูพาสต้าต่างๆ ที่ทางห้องอาหารทำแบบ homemade ด้วยมือทั้งหมด สดใหม่มาก
เรื่องการตกแต่งก็ยังคงคอนเซ็ปเช่นกัน โดยนำเอาสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายในแบบผสมผสาน ระหว่างความหรูหราของยุโรปกับความสง่างามของเอเชียในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 มาผนวกเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเหล็กดัดที่เป็นเอกลักษณ์กับแนวอิฐอันงดงามประณีต เรียกว่าเมื่อเราเดินเข้ามาที่ห้องอาหารแห่งนี้ เสมือนว่าได้ย้อนกลับไปยังภาพอดีตที่แสนน่าประทับใจ
โดยสองส่วนที่ชอบที่สุดภายในห้องอาหารขอยกให้กับบริเวณบาร์เครื่องดื่ม ที่เราสามารถนั่งผ่อนคลายจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ก่อนมื้ออาหารได้ ดูบาร์เทนเดอร์ออกลีลาการเชคเครื่องดื่มประเภทต่างๆ และส่วนที่สองคือบริเวณครัวเปิดของทางร้านที่เราสามารถเห็นเชฟขณะกำลังปรุงอาหารให้เรากันได้แบบชัดเจน เรียกว่ากำลังทำเมนูไหนอยู่ จานไหนใกล้เสิร์ฟแล้ว รอชมและเตรียมรอทานกันได้เลย ^^ เอาเป็นว่าเกริ่นกันมานานแล้ว ตามไปชมไปชิมเมนูอร่อยๆ ด้วยกันเลยดีกว่า
สำหรับเมนูไฮไลท์ที่เราไปดินเนอร์กันต้องขอแนะนำนี่เลย Risotto E Capesante (ราคา 790 ++) เมนูริซอตโต้หอยเชลล์โรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำที่บอกเลยว่ากลิ่นหอมน่าทานมากกกกกกก โดดเด่นด้วยหอยเชลล์ชิ้นโตนำเข้ามาจากฮอกไกโดที่วางบนข้าวริซอตโต้ ปรุงมาสุกกำลังดีข้างในชุ่มช่ำหวานนุ่ม คำแรกที่ตัดมาชิมบอกเลยว่าปลื้มสุดๆ หอมมัน กลมกล่อมพร้อมกลิ่นและรสชาติจากทรัฟเฟิลจางๆ ในปาก ได้ทานแล้วคำเดียวไม่พอจริงๆ ^^
ส่วนเมนูต่อมาขอยกให้กับ Spaghetti Di Mare (ราคา 690++) หรือเมนูซีฟู๊ดพาสต้าที่ถือเป็น Chef’s signature ของทางร้าน ทำจากเส้นสปาเก็ตตี้แบบโฮมเมดสดใหม่ มาพร้อมกับกุ้งลายเสือตัวโต ปลาหมึก หอยแมลงภู่และหอยกาบ บอกเลยว่าเข้มข้นมาก รสชาติเผ็ดกำลังดีถูกปากคนไทย แต่ถ้าใครชอบเผ็ดน้อยก็แจ้งเชฟเอาไว้ก่อนตั้งแต่ตอนสั่งได้นะ ชอบที่สุดเวลาได้ทานเส้นคู่กับหอยแมลงภู่ มันกล่อมกล่อมเข้ากันเป็นที่สุด ถือเป็นหนึ่งในจานไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดแถมยังช่วยตัดเลี่ยนของจานอื่นๆ ได้อีกด้วย แต่บอกก่อนว่า portion ใหญ่อยู่เหมือนกัน สั่งมาแชร์ได้สบายๆ เลย
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ที่เราได้ชิมและขอแนะนำเพิ่มเติมดังนี้ Fritto Misto (ราคา 450 ++) หรือเมนูรวมมิตรทะเลทอด ถือเป็นเมนู starter สุดคลาสสิคและยอดนิยมของห้องอาหาร มีทั้งกุ้งลายเสือ ปลาหมึก ปูนิ่ม และเส้น Tagliatelle แบบทำมือตามแบบฉบับอิตาเลี่ยนเอามาทอดกรอบเสิร์ฟพร้อมกับซอส Homemade Tartare สูตรเข้มข้น บอกเลยว่าเด็ดมาก ต้องขอชอสเพิ่มกันเลยทีเดียว แถมจานนี้สั่งมาแชร์กันได้สบายๆ ก่อนเริ่มทานจานหลัก
อีกหนึ่งเมนูที่ถือเป็น Recommended ของทางร้านต้องยกให้กับ Pizza Tartufata (ราคา 690 ++) หรือก็คือพิซซ่าโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิล โดยมีมาสกาโปนชีส อาสิอาโกชีสชีส และเห็ดพอร์ชินีสด เป็นวัตถุดิบหลัก พร้อมโรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำปิดท้ายก่อนเสิร์ฟ ช่วยเพิ่มความหอมและน่าทานให้มากขึ้นอีก หลังจากได้ทานบอกเลยว่าเนื้อแป้งนุ่มดีมาก รสชาติชีสและทรัฟเฟิลเข้มข้นชัดเจน เมนูนี้ถาดนึงใหญ่มาก ถ้าสั่งมาแชร์กันกับเมนูอื่นๆ ควรมีอย่างน้อย 3 คนถึงจะทานหมด
ส่วนของหวานปิดท้ายเราเลือกเป็น Medici Tiramisu (ราคา 300 ++) เมนูของหวานทิรามิสุสไตล์อิตาเลี่ยนขนานแท้และถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของห้องอาหารเมดิชี่ มีความพิเศษอยู่ตรงที่เชฟจะใช้ ladyfingers ที่มีส่วนผสมหลักของไข่และน้ำตาล จุ่มด้วย coffee liquor เม็ดช็อคโกแลต และมาสกาโปนชีส เลเยอร์ด้านล่างเป็นช็อคโกแลต พร้อมโรยหน้าด้วยเกล็ดช็อคโกแลตและครัมเบิ้ลกรุบกรอบ ทานแล้วได้รสชาติกาแฟชัดเจน ไม่หวานมาก น่าจะถูกใจคุณผู้หญิงกันแน่นอน
นอกเหนือจากที่เราได้พาไปชิมดินเนอร์มื้อค่ำกันแล้ว ทางห้องอาหารเมดิชี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์ ยังเปิดให้บริการมื้อกลางวันอีกด้วยนะ ในรูปแบบ Lunch Set ในราคาเพียง 390 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับ 2 คอร์ส และ 490 บาทสุทธิต่อท่านสำหรับ 3 คอร์ส ถือว่าไม่แพงเลย ราคาดีมาก จะมาทานเองหรือไว้เลี้ยงรับรองคุยงานก็สะดวกในราคาสบายกระเป๋า แต่ยังได้บรรยากาศของห้องอาหารอิตาเลี่ยนต้นตำหรับดั่งเดิม
ห้องอาหารเมดิชี่ คิทเช่น แอนด์ บาร์
ตั้งอยู่ชั้นใต้ดิน (ชั้น LG) ของโรงแรมโฮเทล มิวส์ แบงค็อก ใจกลางซอยหลังสวน (BTS สถานีชิดลม)
เปิดให้บริการมื้อกลางวัน ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 12:00 - 14:30 น.
มื้อค่ำเปิดให้บริการทุกวันเวลา 18:00 - 22:30 น.
สำรองที่นั่งได้ ที่นี่
หรือโทร 02-630-4000
รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
