top of page
  • รูปภาพนักเขียนOn The Jet Plane

10 เหตุผลที่หนาวนี้ควรไป Tomamu, Hokkaido

อัปเดตเมื่อ 18 พ.ค. 2564


หิมะ !!! ใกล้หนาวแล้วทีไร ในหัวมีแต่ภาพหิมะขาวๆ ลอยขึ้นมาทุกที โดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้ใครๆ ก็พูดถึงแต่เรื่องไปเที่ยวต่างประเทศ ไปสัมผัสอากาศหนาวๆ ใส่ชุดเล่นสกีถ่ายรูปกับหิมะทุ่งสีขาวโพลน ที่แม้ว่าความเป็นจริงจะเล่นเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่รู้แค่ว่าถ้าได้ถ่ายภาพเอามาอวดเพื่อนในเฟสบุ๊คแล้วยอดไลค์พุ่งกระจายแน่ๆ

แต่ถึงกระนั้น "หิมะ" ก็อาจจะฟังดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับคนไทยไปนิดนึง เพราะตั้งแต่เกิดมาก็รู้จักแต่หน้าร้อน และร้อนมว๊าก ครั้นจะให้ไปสัมผัสหิมะไกลถึงยุโรป ค่าใช้จ่ายก็สู๊งสูง วันลาก็ได้น้อย เดินทางก็ไกล วีซ่าก็ต้องมาขออีก แถมตั๋วเครื่องบินก็ไม่ใช่ถูกๆ ไปทีก็หลายวัน เพื่อนๆ ลาไปด้วยพร้อมกันก็ยากอีก

แต่ถ้าใครสนใจอยากจะไปสัมผัสหิมะจริงๆสักครั้งและไปได้ไม่ยากเกินไป ทาง On The Jet Plane ขอนำเสนอที่นี่เลย โรงแรม Hoshino Resort Tomamu ที่เมืองโทมามุ บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นนี่เอง ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป มาง่าย วีซ่าก็ไม่ต้อง เรียกว่าเป็นประเทศขวัญใจคนไทยเลยก็ว่าได้ และอย่างที่รู้กันดีว่าเกาะฮอกไกโดนั้นขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องอากาศหนาว แถมหิมะของที่นี่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพดีติดอันดับต้นๆของประเทศญี่ปุ่น ดังนั้นถ้าใครสนใจอยากมาสัมผัสหิมะ มาเล่นสกีแล้วละก็ บอกเลยว่ามาที่นี่ไม่มีผิดหวังแน่นอน

เพราะที่โรงแรมแห่งนี้ถือเป็นโรงแรมสำหรับการเล่นสกีโดยเฉพาะ เรียกได้ว่ารวมกิจกรรมสันทนาการเอาไว้ทุกอย่างเกี่ยวกับการเล่นสกี และยังมีความพิเศษกว่าที่อื่นตรงที่เป็นโรงแรมที่สามารถ Ski in & Ski Out ได้เลย นั่นหมายความว่าหลังเดินออกจากห้องพักก็สามารถแต่งชุดสกีออกไปได้ทันทีตั้งแต่เริ่มยันกลับเข้ามา เพราะว่าตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ในลานสกีอยู่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาแบกชุดสกีไปแต่งตัวที่คลับเฮ้าส์อีกครั้งให้เสียเวลาแต่อย่างใด นอกจากนั้น ที่นี่ยังมีกิจกรรมอื่นๆให้ใช้เวลาได้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำในร่ม บ่อออนเซ็น ร้านอาหาร ตลอดจนวิวสวยๆจากห้องพัก เอาเป็นว่าอย่าให้เยิ่นเย้อเลย เราไปดูกันดีกว่า 10 เหตุผลที่หน้าหนาวนี้เราควรมาเที่ยวที่ Hoshino Resort Tomamu นั้นมีอะไรกันบ้าง

 

จองห้องพัก Hoshino Resort Tomamu ราคาพิเศษได้ที่นี่

Agoda อ่านรีวิวโดยละเอียดเกี่ยวกับ โรงแรม Hoshino Resort Tomamu ได้ ที่นี่

-------------------------

สถานที่ตั้งไม่ไกลจากซัปโปโร พร้อมบริการรับ-ส่งจากสนามบิน

เมื่อเราลงเครื่องบินที่สนามบินซัปโปโร ชิโตเสะ สามารถลงไปบริเวณชั้น 2 เพื่อติดต่อรถบัสที่ให้บริการวิ่งระหว่าง สนามบินกับโรงแรม ซึ่ง Hoshino Resort Tomamu นี้ตั้งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตัวสนามบินซัปโปโร นั่งรถเพียงแค่ 1.30 ชั่วโมงเท่านั้น โดยรถจะตรงไปส่งยังโรงแรมเลย หรือ ในกรณีขากลับ ถ้าจะอยู่เที่ยวเมืองซัปโปโรต่อ ก็มีบริการให้เช่นกัน

การเดินทางโดยรถบัสจากสนามบินชิโตเสะไปยังตัวโรงแรมใช้เวลาแค่ 1.30 ชม.

หลังจากรับกระเป๋าเดินทางเรียบร้อย ก็สามารถเลี้ยวขวา เพื่อมาออกตั๋วรถบัสไปโรงแรมได้เลยครับ

มีเที่ยวบินตรงจากประเทศไทย

เดินทางมาซัปโปโรนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการบินไทยมีให้บริการทั้งแบบบินตรงไม่แวะพักทุกวัน หรือจะนั่งแบบประหยัดจากสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์โดยแวะเปลี่ยนเครื่องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ก็ได้ ยิ่งถ้าวางแผนล่วงหน้านานๆด้วยแล้วรับรองมีโอกาสได้ราคาตั๋วไปกลับแบบไม่กระเป๋าฉีกแน่นอน

สายการบินไทย

ขาไป TG 670 23.55-08.20+1 ทุกวัน

ขากลับ TG 671 10.30-15.30 ทุกวัน

สายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ (ต้นทางกัวลาลัมเปอร์)

ขาไป D7550 23.35-08.25+1 ให้บริการ วันอังคาร พฤหัสบดี เสาร์ และอาทิตย์

ขากลับ D7551 09.35-16.35 ให้บริการ วันจันทร์ พุธ ศุกร์ และอาทิตย์

Ski in & Ski Out

Ski in & Ski Out หมายความว่าลูกค้าของทางโรงแรมสามารถที่จะใส่ชุดสกีจากห้องพัก ลงมายังลอบบี้ แล้วเดินไปยังลานสกีได้เลย โดยไม่ต้อง ต่อรถไปไหนอีก ขากลับเวลาลงจากลานสกี ก็สามารถถอดตัวสกีกับไม้ไว้บริเวณด้านล่างได้เลย แล้วก็ตัวปลิวกลับห้องพักผ่อนได้สบายใจเฉิบ สะดวกมั้ยล่ะ ??? ไม่ต้องแบกหามชุดตัวเองให้เหนื่อยเพื่อขึ้นรถ ไม่ต้องนั่งรถไปอีกเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะถึงลานสกี เพราะลานสกีพร้อมกระเช้ามารออยู่ตรงหน้าโรงแรมแล้วววว

และขอบอกเลยว่าที่นี่ห้องพักสบายมาก ได้เห็นวิวสุดลูกหูลูกตา เหมาะกับการมาเป็นแบบครอบครัว โดยในห้อง จะแบ่งเป็นเป็นสัดส่วนทั้งห้องพัก ห้องนั่งเล่น และที่แจ่มที่สุดเห็นจะเป็น จากุชชี่ในห้องน้ำที่สามารถมานอนแช่ในอ่างได้ถึง 3 คน พร้อมกับกระจกบานเบ้อเริ่มให้ได้เสพบรรยากาศภายนอก ชนิดที่ว่าเล่นสกีเสร็จแล้วกลับมานอนแช่จากุชชี่ให้ผ่อนคลายแบบไม่อยากลุกออกไปไหนเลย


อ่านรีวิวโรงแรม Hoshino Resorts TOMAMU เพิ่มเติมได้ ที่นี่

โรงแรม Hoshino Resort แบ่งส่วนที่พักออกเป็น 2 ส่วน คือ ตึก The Tower (ด้านหลังตรงกลาง) และ Risonare (ด้านหลังทางขวามือ) ซึ่งทุกท่านสามารถเลือกได้ว่าต้องการพักตรงไหน

เมื่อเราทำการเช็คอิน เราก็จะได้ทั้งคูปองอาหารเช้า บัตรเข้าสวนน้ำ การ์ดเข้าห้อง แผนที่ภายในบริเวณรีสอร์ท และกระดาษอธบายร้านอาหารต่างๆ

บรรยากาศบริเวณห้องรับแขก

เตียงนอนนุ่มสบาย จัดเป็นสัดส่วน

บรรยากาศอ่างจากุชชี่ภายในห้องอาบน้ำ กับวิวระดับล้าน ที่ถ้าใครได้มาลองขอบอกว่า ฟินกว่านี้ก็ไม่มีที่ไหนแล้ว

มีอุปกรณ์สกีให้ยืมตั้งแต่หัวจรดเท้า

สำหรับใครที่คิดว่าอยากจะไปเล่นสกี แต่ตัวเองไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย จะซื้อยกชุดก็สิ้นเปลืองของแต่ละชิ้นก็มีราคาค่อนข้างสูงไม่รู้จะได้มีโอกาสใช้อีกกี่ครั้ง ไม่ต้องเป็นห่วง...เพราะที่นี่มีให้เช่าหมดตั้งแต่หัวจรดเท้า!!! เรียกว่าไม่ต้องแบกอะไรมาจากประเทศไทยให้หนักกระเป๋าเลย ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน๊อค แว่น ชุดเล่นสกี ตลอดไปจนถึง รองเท้าและไม้สกี โดยอุปกรณ์ครบชุดเริ่มต้นที่ ประมาณ 2,900 บาท เช่าเค้านี่แหละคุ้มกว่ากันเยอะ

ราคาค่าเชาาอุปกรณ์สกีต่างๆ โดยที่หน่วยเป็นเงินเยน

เล่นสกีไม่เป็นก็ฝึกได้ที่นี่

สำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานการเล่นสกีมาก่อนไม่ต้องเป็นห่วง เพราะที่นี่มีบริการสอนตั้งแต่ระดับ Beginner ไปยังระดับ Advance เรียกว่าเริ่มตั้งแต่การหัดสวมชุดสกี การบังคับทิศทาง ตลอดจนเทคนิคต่างๆ ภายในระยะเวลา 2 วัน เรียนจบคอร์สแล้วสามารถลงไปเล่นสนามจริงได้เลย ซึ่งในตัวรีสอร์ทเอง ก็แบ่งโซนเอาไว้ให้มากมาย ทั้งเนินลาดๆสำหรับผู้เริ่มต้น ไปจนถึงสนามสกีเต็มรูปแบบสำหรับผู้ที่มีทักษะการเล่นอย่างชำนาญ

กิจกรรมกลางแจ้งก็มีให้ครบ

ถ้าพูดถึงเรือกล้วย Banana Boat เราจะนึกถึงภาพเครื่องเล่นที่อยู่ในทะเลบ้านเรา แต่นี่โทมามุนี่ก็มีเรือกล้วยเช่นกันนะ แต่เป็นเรือกล้วยที่เล่นบนหิมะ (Banana Ski Boat) ที่จะใช้รถ Ski Motor ลากแทน ให้ความสนุกแบบเสียวๆไปอีกแบบ หรือว่าใครไม่ถนัดสกีแต่อยากจะลองเล่น ที่นี่ก็ยังมีรถเลื่อนให้ได้ลองเล่นเช่นกันนะ โดยที่เวลาเล่นเราจะใช้เส้นทางเดียวกันที่นักสกีเล่นลงมาจากเนินเขาเลย หรือถ้าอยาก Advance กว่านั้นจะลองไปขี่ Ski Motor ก็ยังได้

ของกินหลากหลาย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อโรงแรมแห่งนี้มีมากกว่า 5 ห้องอาหารให้เลือกสรรมากมาย กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ภายในบริเวณรีสอร์ท โดยมีให้บริการแบบ Buffet และ A La Carte โดยส่วนมากจะเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่ก็จะมีห้องอาหารประเภทอาหารอิตาเลียน หรือคาเฟ่ ภายในโรงแรมโดยที่เราสามารถเลือกได้เลยว่า เช้า-เย็นเราจะไปทานอาหารที่ห้องอาหารไหน โดยเมนูอาหารก็เปลี่ยนไปตามเวลาด้วย ชนิดที่ว่าใครหลงรักอาหารญี่ปุ่นต้องหลงรักที่นี่แน่ๆ

อาหารเช้ากับบรรยากาศฟินๆ บนห้องอาหารชั้นบนสุดของทางโรงแรม

ห้องอาหารบุฟเฟ่ต์ HAL Buffet Dining ที่เปิดเฉพาะช่วงเย็นให้ได้มาลิ้มรสเนื้อย่างกับปูอลาสก้าแบบสดๆกันไปเลย

สระน้ำใหญ่โตมโหฬาร

ที่รีสอร์ทแห่งนี้ มีศูนย์นันทนาการทางน้ำที่ชื่อว่า Mina-Mina Beach (Mina แปลว่ายิ้ม) ซึ่งที่นี่ขอบอกเลย ว่าเป็นสระน้ำในร่มที่มีลักษณะเป็นหาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยด้านในจะสร้างคล้ายกับหาดริมทะเล และจะมีคลื่นเทียมปล่อยมาเป็นช่วงๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ทะเลจริงๆ ตลอดจน ในสระน้ำแห่งนี้ ก็จะมี ออนเซ็นเทียมกลางแจ้งให้ได้แช่ในบรรยากาศน้ำร้อนๆ แล้วดูหิมะตกไปพลางๆ ...จะมีอะไรฟินไปกว่านี้อีก

หมู่บ้านน้ำแข็ง

ในช่วงฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม) อุณหภูมิที่นี่โดยเฉลี่ยต่ำกว่า 0 องศา และโดยเฉพาะในเวลากลางคืนอาจมีถึง -15 องศาเซลเซียสได้เลย ใครอยากจะมาสัมผัสความเย็น หิมะนุ่มๆแน่นๆ ขอบอกว่าต้องที่นี่เลย และประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ต้นเดือนมีนาคม จะเป็นช่วงที่หนาวสุดๆ ทางรีสอร์ทก็จะเปิดหมู่บ้านน้ำแข็งให้เข้าชมกัน เพราะเนื่องจากต้องสร้างในช่วงที่อากาศเย็นจัดเท่านั้น เพราะให้น้ำแข็งเกาะกันแน่นและปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้าชม โดยในบ้านแต่ละหลังจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้สนุกกัน เช่นบ้านเจ้าหญิง หรือบ้านบาร์ขายเครื่องดื่ม บ้านขายกาแฟ ไปจนถึงโรงแรมน้ำแข็งซึ่งมีไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองมานอนสัมผัสดู ถือเป็นประสบการณ์แบบแปลกๆ ที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

บริเวณหมู่บ้านน้ำแข็งในเขตของโรงแรม ซึ่งด้านหน้ามีพื้นที่สำหรับไอซ์สเก็ตด้วย

บริเวณทางเข้าหมู่บ้านน้ำแข็ง

บ้านแต่ละหลัง ก็จะจัดกิจกรรมแตกต่างกันไป มีทั้งร้านกาแฟ บาร์นั่งดื่ม หรือแม้กระทั่งคลาสสอนศิลปะ

จบแล้วเที่ยวญี่ปุ่นต่อได้

ใครเล่นสกียังไม่หนำใจ ขากลับเราก็สามารถแวะเที่ยวเมืองซัปโปโรต่ออีกซัก 1- 2 วัน ก่อนขึ้นเครื่องกลับไทยได้ ไม่ว่าจะเที่ยวชมเมือง หรือเลือกนั่งรถไฟต่อไปเที่ยวเมืองโอตาหรุ หรือฮาโกะดาเตะ ก็สวยงามไม่แพ้กัน หรือจะเลือกหาซื้อของฝากก่อนกลับเมืองไทย ก็แต่แล้วตามที่จะวางแผนกันได้เลย

ศาลาว่าการเก่าของเมืองซัปโปโร

-----------------------

Last Check Point

ไหนๆก็มาถึงซัปโปโรแล้ว ขอแถมเพิ่มอีกหนึ่งข้อแล้วกันครับ ว่าเป็นอีกหนึ่ง Check Point ที่ไม่ควรพลาดก่อนกลับ นั่นก็คือที่สนามบินชิโตเสะในซัปโปโรนั่นเอง ก่อนกลับไทยยังไงก็ต้องมาแวะ เพราะถ้าใครยังไม่ได้ช๊อปปิ้ง หรือของฝากยังไม่ครบ ที่สนามบินแห่งนี้มีของฝากชื่อดังอยู่เกือบทุกอย่าง เรียกว่าเป็นศูนย์การค้าย่อมๆ เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะชีสเค้กเอย อาหารทะเลแช่แข็งเอย รวมทั้งที่เที่ยวเก็บตกน่ารักๆอน้่วบ้านคิตตี้ กับบ้านโดราเอม่อน ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ของตัวการ์ตูนสองตัวนี้ อย่าลืมเข้าไปแวะเยี่ยมชมได้เลยนะ

บ้านโดราเอมอน ที่เป็นตัวการ์ตูนที่เป็นขวัญใจของใครหลายๆคน

บ้านคิตตี้ ที่รวมเอาทีมสารพัดตัวละครจับมาอยู่ในที่ๆเดียวกัน

จากทั้งหมดที่ได้แนะนำมา มันคงจะหนาวได้ไม่สาแก่ใจเพื่อนๆหากยังไม่ได้ลองไปสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าที่เล่ามาทั้งหมด 10 ข้อนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับประสบการณ์จริง ดังนั้นหนาวนี้อย่ารอช้า แพ็คกระเป๋า จองตั๋วเครื่องบิน แล้วไปลุยหิมะที่โทมามุกันเลยดีกว่า สำหรับแอ๊ดมินเองบอกเลยว่าตอนนี้อยากกลับไปอีกรอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ

ข้อแนะนำ

1. ฤดูหนาว ที่นั่นหนาวมากถึงมากที่สุด เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมชุดอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม

2. ควรมีเวลาอยู่ที่รีสอร์ทอย่างน้อยประมาณ 4-6 วัน (2 วันกับการเรียนสกี และอีก 2 วันสำหรับเล่นจริงและทำกิจกรรมอย่างอื่นในรีสอร์ท)

3. บอกเลยว่าที่ Hoshino Resort Tomamu ที่นี่ขอบอกว่าครบ และจบในที่ๆเดียวสำหรับฤดูหนาว

ข้อสุดท้าย ต้องมาให้ได้ครับ และจะไม่ลืมที่นี่ไปตลอดชีวิตเลย

 

จองห้องพัก Hoshino Resort Tomamu ราคาพิเศษได้ที่นี่

ขอขอบคุณ

รายการ BoardingpassTV

เพจ Patsamon eat well travel style

ดู 1,497 ครั้ง
bottom of page