top of page
  • รูปภาพนักเขียนOn The Jet Plane

Grande Centre Point Pattaya แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา โรงแรมหรูวิวทะเลใจกลางพัทยาเหนือ [รีวิว]

อัปเดตเมื่อ 23 ก.ย. 2564


รีวิว Grande Centre Point Pattaya โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา

วันนี้ On The Jet Plane จะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งโรงแรมหรูของเมืองพัทยาที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมานี่เอง อย่างแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา โรงแรมแนวแฟมมิลี่ระดับ 5 ดาว กับจุดขายที่บอกเลยว่าครบเครื่องที่สุดไม่แพ้โรงแรมไหนๆ ในเมืองนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของที่ตั้งที่อยู่ใจกลางย่านพัทยาเหนือ ห้องพักแบบซีวิวทุกห้อง อาหารเช้าอลังการ สระว่ายน้ำและสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ พร้อมแหล่งช๊อปปิ้งชื่อดังอย่างห้าง Terminal 21 Pattaya ที่จะไปช๊อปหรือไปหาของอร่อยๆ ทานก็ง่ายเพียงแค่กดลิฟท์ลงมา เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ครบจบในที่เดียวจนแทบไม่ต้องออกไปไหนเลย

เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วเราก็ออกไปเติมเต็มวันหยุดในรีวิวนี้เลยดีกว่า ^^

 

จองห้องพัก Grande Centre Point Pattaya ราคาพิเศษได้ที่นี่

เปรียบเทียบราคาจาก Agoda (เราเที่ยวด้วยกัน)

เปรียบเทียบราคาจาก Booking

เปรียบเทียบราคาจาก Klook

แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ตั้งอยู่ใจกลางย่านพัทยาเหนือ ระหว่างถนนพัทยาเหนือและถนนพัทยาสายสองติดกับวงเวียนปลาโลมา โดยตัวโรงแรมนั้นตั้งอยู่ด้านบนของห้างเทอมินอล 21 พัทยา อีกทีหนึ่ง มีความสูงทั้งหมด 32 ชั้น พร้อมห้องพักจำนวน 396 ห้องที่มีให้เลือกมากถึง 6 Room Type ด้วยกัน ซึ่งจุดขายของทางโรงแรมนั้นคือสวนน้ำลอยฟ้าขนาดใหญ่ 6,000 ตารางเมตร ที่มาในคอนเซปส์อวกาศ ประกอบไปด้วยสระว่ายน้ำ 2 สระด้วยกัน พร้อมสไลเดอร์และโซนสวนน้ำให้เด็กๆ สามารถสนุกกันได้ตลอดทั้งวัน รวมทั้งห้องคิดส์คลับขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์แนวครอบครัวอย่างเต็มตัว

แต่ก็ไม่ใช่ว่าแนวหนุ่มสาวหรือแนวคู่รักจะมาไม่ได้ เพราะทางโรงแรมยังมีพื้นที่ของพูลบาร์ และคาบาน่า เพื่อความเป็นส่วนตัวระหว่างการพักผ่อนให้สามารถใช้บริการกันได้อีกด้วย พร้อมสะพานทางเดินกระจก Sky Bridge แห่งแรกของเมืองพัทยา ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของอ่าวพัทยาได้ถึง 180 องศา และที่สำคัญสามารถเดินเชื่อมกับห้าง Terminal 21 Pattaya ได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าเดินลงไปช๊อปหรือหาของกร่อยๆ ทานกันได้ทั้งวัน เหนื่อยเมื่อไหร่ก็ค่อยกลับขึ้นมาพักที่โรงแรม

ส่วนของ Lobby นั้นตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ซึ่งมีประตูทางเข้าเป็นของตัวเองที่แยกส่วนกับประตูของส่วนห้างอย่างชัดเจน แต่ก็มีทางเชื่อมที่สามารถเดินเข้าห้างและลานจอดรถได้เช่นกัน ส่วนการตกแต่งนั้นเปิดโล่ง ดูโปร่งสบาย พร้อมเก้าอี้ให้แขกนั่งรอระหว่างการเช็คอิน

Welcome Drink ตั้งบริการอยู่ด้านข้างของล๊อบบี้ ทั้งน้ำผลไม้ ชา และกาแฟ ที่สามารถใช้บริการกันได้ตลอดทั้งวัน

Business Lounge ที่ตั้งอยู่ติดกับ Lobby

Key Card ของทางโรงแรม ที่ต้องใช้แต๊ะเวลากดลิฟท์เพื่อเข้าถึงส่วนของห้องพัก

Panoramic Suite Seaview

สำหรับห้องพักของเราในครั้งนี้เป็นแบบพาโนรามิค สวีท ซีวิว ขนาด 64 ตารางเมตร พร้อมเตียงนอนแบบ King Size (6 ฟุต) ที่บอกเลยว่ากว้างขวางดีมาก แบ่งแยกเป็นสัดส่วนชัดเจน ระหว่างห้องนอนห้องนั่งเล่น และส่วนของห้องแต่งตัวและห้องน้ำ พร้อมจุดเด่นคือวิวแบบพาโนราม่า 180 องศาของอ่าวพัทยา เนื่องจากว่าเป็นห้องหัวมุมด้านหน้าตึกที่ชี้ออกไปทางฝั่งทะเลพอดี โดยเฉพาะวิวจากตรงอ่างอาบน้ำนั้นสวยงามเต็มตามากเพราะตั้งอยู่ติดกับกระจกแบบเต็มบาน นอนแช่น้ำไป ชมวิวเมืองพัทยาไป จะมีอะไรดีไปกว่านี้จริงไหม

ส่วนการตกแต่งนั้นเน้นแนวเรียบง่าย สวยงาม ไม่หรูหรานักแต่ดูแล้วรู้สึกอยู่สบายเหมือนบ้าน พร้อมโซฟาปลายเตียงเอาไว้นั่งดูทีวี และโต๊ะทานอาหารที่มีพร้อมทั้งตู้เย็น ชุดจานชาม และเตาไมโครเวฟ สามารถอุ่นอาหารง่ายๆ ทานกันในห้องพักได้เลย ส่วนมินิบาร์และเครื่องดื่มในตู้เย็นที่มีให้สามารถทานได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่านเพิ่มเติมแต่อย่างใด พร้อมเติมให้ใหม่ทุกวันที่เข้าพักอีกด้วย

ส่วนของโซฟานั่งเล่นหน้าทีวี และประตูทางเดินไปยังห้องแต่งตัวและห้องน้ำ

วิวจากห้องน้ำอลังการมาก

บรรยากาศสบายๆ น่ามาพักผ่อนมาก

ไฟหัวเตียง พร้อมรูปปลั๊กแบบ USB สำหรับการชาร์ทโทรศัพท์มือถือ

มินิบาร์ และขนมขบเคี้ยวที่ให้บริการฟรี

พื้นที่นั่งเล่นบริเวณริมระเบียง

ชุดเครื่องใช้ภายในห้องน้ำ

อีกหนึ่งจุดเด่นภายในห้องน้ำ คือระบบสุขภัณฑ์ไฟฟ้าแบบญี่ปุ่น พร้อมระบบฉีดน้ำทำความสะอาดอัตโนมัติ และระบบทำความร้อนที่ฝาชักโครก ตื่นเช้ามานั่งแล้วอุ่นสบายดีมาก บอกเลยยยย

ห้องพักของที่นี่ซีวิวทุกห้องจริงๆ

Facilities

จบจากเรื่องห้องพักแล้วย้ายมาดูสิ่งอำนวยความสะดวกที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่กันบ้างดีกว่า โดยเฉพาะส่วนของ Water Park ลอยฟ้าที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น F เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 07:00 - 20:00 น. พร้อมจุดเด่นคือมีทีมไลฟ์การ์ดคอยมาดูแลความปลอดภัยตลอดเวลาที่เปิดให้บริการ เรียกได้ว่าคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกๆ มาเล่นน้ำอุ่นใจหายห่วงกันได้เลย

โดยส่วนดังกล่าวมีพื้นที่มากถึง 6,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ 2 สระด้วยกัน คือส่วนสระเด็กความลึก 30 เซนติเมตร ที่มาในคอนเซปส์ในแบบอวกาศ และสไลเดอร์จำนวน 2 ตัว ให้คุณหนูๆ ได้สนุกกันได้อย่างเต็มที่ และส่วนของสระว่ายน้ำและพูลบาร์ ความลึก 60-120 เซนติเมตร รวมทั้งยังมีมุมของลานระเบียงรับแดด ชิงช้า และคาบาน่าส่วนตัวให้สามารถไปใช้บริการ หรือนั่งอาบแดดกันได้อีกด้วย

พื้นที่ของส่วนสระเด็กความลึก 30 เซนติเมตร

พื้นที่ของส่วนสระว่ายน้ำและพูลบาร์ ความลึก 60-120 เซนติเมตร

เปิดไฟตอนกลางคืนก็ยิ่งสวย

สะพาน Sky Bridge พร้อมพื้นกระจกใสที่มองทะลุลงไปยังพื้นเบื้องล่าง

Kids Club

คิดส์คลับขนาดใหญ่ตั้งอยู่บริเวณชั้น F ที่มาในธีมของเรือโจรสลัด พร้อมเกมส์สนุกๆ และกิจกรรมมากมายสำหรับคุณหนูๆ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08:00- 18:00 น. โดยมีข้อกำหนดสำหรับการใช้บริการคือจะต้องมีผู้ปกครองคอยมาดูแลอยู่ด้วยตลอดเวลา

The Fit Club

เดอะ ฟิตซ์ คลับ ตั้งอยู่บริเวณชั้น F เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06:00 - 22:00 น. ด้วยอุปกรณ์ทั้งลู่วิ่งไฟ้า จักรยานนั่งปั่น เครื่องเดินออกกำลังกาย ฟรีเวทหลากหลายขนาด และอุปกรณ์โยคะ พร้อมด้วยเทรนเนอร์มืออาชีพที่ยินดีให้ความช่วยเหลือ และมีน้ำดื่ม รวมทั้งห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้บริการ

Entertainment Zone

ตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น F ติดกับฟิตเนส เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06:00-22:00 น. ที่ประกอบไปด้วยโต๊ะฮอกกี้ โต๊ะสนุกเกอร์ โต๊ะพูล และโต๊ะเกมฟุตบอล ให้เลือกเล่นกันได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

Restaurant

ห้องอาหารของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา มีอยู่ 2 แห่งด้วยกัน คือ

- The Sky 32 ที่ชั้น 32

- Waves & Wind ที่ชั้น F

โดยห้องอาหารเดอะ สกาย 32 นั้นให้บริการเฉพาะมื้อเช้าและมื้อค่ำ ตั้งอยู่ที่บริเวณรูฟท็อปของโรงแรม แบ่งเป็นโซนภายในและภายนอกอาคาร ที่บอกเลยว่าวิวเมืองพัทยาจากบนนี้สวยมาก โดยมื้อเช้านั้นให้บริการอาหารในแบบบุฟเฟ่ต์ตั้งแต่เวลา 06:00-10:30 น. ถ้าใครตื่นไวแนะนำขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจากบนนี้บรรยากาศดีสุดๆ ค่อยๆ เห็นท้องฟ้าเปลี่ยนสีไปทีละน้อยจนสว่าง และอีกหนึ่งความพิเศษของห้องอาหารแห่งนี้คือสามารถเข้าใช้บริการมื้อเช้าได้เฉพาะแขกที่เข้าพักในห้องพักบางประเภทเท่านั้น (บนบัตร Key Card จะมีเขียนแจ้งเอาไว้ว่าแขกที่มาพักสามารถใช้บริการห้องอาหารใดได้บ้าง) ดังนั้นคนจึงไม่ค่อยพลุกพล่านและมีความเป็นส่วนตัวสูง รวมทั้งยังมีเมนูอาหารบางอย่างที่พิเศษแตกต่างออกไปจากห้องอาหาร Waves & Wind อีกด้วย

บรรยากาศยามเช้าสวยงามมาก

ไลน์อาหารขนาดกระทัดรัด แต่มีครบทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ที่สำคัญเลยคือรสชาติดีทีเดียว นั่งทานได้เรื่อยๆ พร้อมกับชมวิวยามเช้าของย่านพัทยาเหนือจากชั้น 32

เอ้กเบเนดิก แซลม่อนรมควัน และน้ำมะพร้าวสด มีให้บริการเฉพาะห้องอาหารเดอะ สกาย 32 เท่านั้น

พื้นที่โซนภายในอาคาร

เมนูติ่มซำ และปลาท่องโก๋

เมนูอาหารมีความหลากหลายดีมาก

พื้นที่โซนภายนอกอาคาร

ส่วนของอาหารค่ำนั้นให้บริการตั้งแต่เวลา 17:00-24:00 น. ซึ่งในมื้อนี้แขกทุกคนของโรงแรม รวมทั้งแขกจากภายนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้โดยมีค่าใช้จ่ายตามแต่เมนูที่สั่ง ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือมาตั้งแต่ 17:00 น. เลย เพื่อมาชมความสวยงามของเมืองพัทยาช่วงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่จะเลือกขึ้นมาดริ้งค์เพียงอย่างเดียว หรือมาทานอาหารค่ำก็ได้ทั้งคู่ แต่แนะนำว่าถ้าอยากได้ที่นั่งดีๆ ติดริมกระจก ควรทำการจองที่นั่งเอาไว้ล่วงหน้าก่อน

อีกหนึ่งข้อที่ควรรู้คือทางโรงแรมไม่มีเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ให้บริการ แต่ว่าอนุญาตให้แขกสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ติดตัวเข้ามาดื่มเองได้โดยไม่คิดค่าเปิดขวดเพิ่มเติม และในบางช่วงทางโรงแรมจะมีโปรโมชั่น Happy Hour หรือโปรโมชั่นชุดเครื่งดื่มม็อกเทลพร้อมขนมขบเคี้ยวในราคาพิเศษให้บริการอีกด้วย บอกเลยว่าไม่แพง แค่เพียงชุดละ 100-200 ก็สามารถขึ้นมาชมวิวสวยๆ จากบนนี้กันได้แล้ว

บรรยากาศดีแค่ไหนดูเอาเอง ^^

ชุดเครื่องดื่มม็อกเทลในราคาสบายกระเป๋า แต่วิวอลังการคุ้มค่าที่จะขึ้นมาชมมาก

มองเห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าจากบนนี้ได้ชัดเจน

เปิดไฟแล้วยิ่งสวย

ต่อมาคือห้องอาหารเวฟ & วินด์ ถือเป็นห้องอาหารหลักของทางโรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น F มีทั้งโซนภายในและภายนอกอาคาร ให้บริการทั้งอาหารมื้อเช้า กลางวัน เย็น ตั้งแต่ 06:00-22:00 น. โดยการตกแต่งนั้นเน้นการผสมผสานกลิ่นอายของทะเลที่ได้รับแรงบันดาลใจ มาจากย่านฟิชเชอร์แมน วาร์ฟ ของเมืองซาน ฟรานซิสโก โดยห้องครัวนั้นเป็นแบบเปิดเพื่อให้แขกได้ชมฝีมือการทำอาหารของเชฟและทีมงานระหว่างการรับประทาน พร้อมจุดขายสำคัญคือไม่ใช้ผงชูรสในการปรุงอาหาร อิ่มอร่อยทุกจานอย่างมีคุณค่าทางโภชนาการ

สำหรับมื้อเช้าให้บริการอาหารในแบบบุฟเฟ่ต์ตั้งแต่เวลา 06:00-10:30 น. โดยมีเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดของห้องอาหารนี้คือ ไข่กระทะ โรตี และมุมก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงกันสดใหม่ตามออเดอร์ทุกชาม นอกจากนั้นยังมีเมนูของหวานเอาใจชาวต่างชาติอย่างมะม่วงสุกให้บริการกันอีกด้วย

ข้อแนะนำสำหรับมื้อเช้าคือ ควรหลีกเลี่ยงช่วงพีคของห้องอาหารตอนช่วงเวลา 08:00-10:30 น. ที่จะมีแขกมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก อาจต้องต่อคิวหรือรออาหารนานสักนิดนึง

พื้นที่นั่งภายในอาคาร

พื้นที่นั่งภายนอกอาคาร

ไลน์อาหารอลังการและมีความหลากหลายมากกว่าห้องอาหารเดอะ สกาย 32

แม้วิวจะไม่สวยเท่าชั้น 32 แต่ก็ยังมองเห็นทะเลยามเช้าได้เช่นกัน

ไข่กระทะ เมนูที่ไม่ควรพลาด

โรตี

Terminal 21 Pattaya

อึกหนึ่งความโดดเด่นของแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ที่จะไม่กล่าวถึงไปไม่ได้เลยก็คือทำเลที่ตั้ง ที่อยู่บนห้างเทอมินัล 21 พัทยา ดังนั้นเรื่องกิน เรื่องช๊อป จึงหายห่วง เพราะครบจบในที่เดียวจริงๆ เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เมื่อเข้าพักแล้วไม่จำเป็นจะต้องขับรถออกไปเที่ยวไหนเลย เพราะมีกิจกรรมให้ทำได้ตลอดทั้งวัน อยากช๊อปเมื่อไหร่ก็แค่กดลิฟท์ลงมา หรือมื้อไหนเบื่ออาหารโรงแรม หรืออยากประหยัดเงินในกระเป๋าก็สามารถเดินลงมาทานอาหารภายในห้างก็ได้เช่นกัน

ทางเดินจากโรงแรมเชื่อมเข้าสู่ห้างเทอมินัล 21 พัทยา

สรุปปิดท้ายกันอีกครั้งว่าแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา เป็นโรงแรมที่ต้องมาจริงๆ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าแนวครอบครัวที่ยังมีลูกเล็ก เพราะเหมือนสวรรค์ของเด็กดีๆ นี่เอง เรียกว่าคุณหนูถูกใจ คุณพ่อคุณแม่ก็แฮปปี้มีความสุขไปด้วย เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ นั้นตอบโจทย์มากๆ ส่วนแนวคู่รักนั้นแม้ว่าจะดูไม่ตรงกลุ่มซะทีเดียว แต่ก็มีกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอื่นรองรับความต้องการได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นห้องพักแบบสวีทที่มาพร้อมกับอ่างแช่น้ำ ซีวิวทุกห้องพร้อมวิวตระกาฬตา บุฟเฟ่ต์อาหารเช้าอลังการ มีห้างให้ช๊อปปิ้ง และที่สำคัญคือมี Rooftop สวยๆ ให้ได้ขึ้นไปชมวิวหรือทานมื้อค่ำสุดโรแมนติคที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าโรงแรมไหนๆ ในพัทยา เอาเป็นว่าถ้าใครอยากรู้ก็ต้องลองมาสัมผัสกันด้วยตัวเองดูสักครั้ง รับรองเลยว่าไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน


 

จองห้องพัก Grande Centre Point Pattaya ราคาพิเศษได้ที่นี่

เปรียบเทียบราคาจาก Agoda (เราเที่ยวด้วยกัน)

เปรียบเทียบราคาจาก Booking

เปรียบเทียบราคาจาก Klook


bottom of page