รีวิว 9h - Nine hours Hakata station, Fukuoka โรงแรมแคปซูล ใหม่ สะอาด ราคาประหยัด ใกล้สถานีรถไฟฮากาตะ เมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น
ใครที่มาเที่ยวเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) ประเทศญี่ปุ่น แบบ Backpacker มาเที่ยวเองคนเดียว หรือต้องการที่พักราคาประหยัด ที่อยูใจกลางเมืองใกล้กับสถานีรถไฟแล้วละก็ เราขอแนะนำ 9h - Nine hours Hakata station (ไนน์ อาวร์ ฮากาตะ สเตชั่น) โรงแรมแคปซูล (Capsule Hotel) สุดชิคที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกอย่างของนักเดินทาง เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฮากาตะ ใหม่ สะอาด ราคาไม่แพง แถมยังเดินทางง่ายอีกด้วย ซึ่งโรงแรมแห่งนี้จะน่ามาใช้บริการ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างนั้น ตามไปชมด้วยกันในรีวิวนี้ได้เลย
จองห้องพัก Nine hours Hakata station ราคาพิเศษได้ที่นี่
เปรียบเทียบราคาจาก Agoda
9h ถือเป็นแบรนด์โรงแรมแบบแคปซูลสุดชิคที่เกิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขั้นพื้นฐานของนักเดินทางที่มีอยู่ 3 อย่างด้วยกัน คือ ที่อาบน้ำ 1 ชั่งโมง ที่พักสำหรับการพักผ่อน 7 ชั่วโมง และที่จัดเตรียมของเปลี่ยนเสื้อผ้า 1 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อรวมกันก็จะเป็นความต้องการพื้นฐาน 9 ชั่วโมงต่อวันที่นักเดินทางหรือนักท่องเที่ยวต้องการพอดี จึงเป็นที่มาของชื่อโรงแรมในแบบเก๋ๆ ว่า Nine hours หรือก็คือ 9 ชั่วโมงนั่นเอง (แต่ในความเป็นจริงอยู่เกินได้ 9 ชั่วโมงนะ)
ซึ่งโรงแรมแคปซูลแห่งนี้มีอยู่ด้วยกันหลายสาขาในเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในโตเกียว โอซาก้า ไอจิ มิยากิ รวมถึงเมืองฟุกุโอกะแห่งนี้ที่จะมีอยู่ 2 สาขาใจกลางเมืองด้วยกัน ใกล้กับสถานีรถไฟทั้งคู่ ได้แก่ สาขา Nakasu-Kawabata Station และสาขา Hakata Station
โดยสาขา Nine hours Hakata station ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวสถานีฮากาตะ (Hakata City) เพียงแค่ราว 2 ช่วงตึก (300 เมตร) หรือเดินเพียง 5 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกสบายมากแม้ว่าจะมีกระเป๋าเดินทางมาด้วย โดยโรงแรมได้รับการตกแต่งออกมาในสไตล์โมเดิร์นในโทนสีเทา ขาว แบบเท่ๆ เน้นการสื่อสารด้วยสัญลักษณ์ icon ที่ตรงตัว ง่ายๆ ดูแล้วเข้าใจได้ทันที และมีภาษาอังกฤษกำกับไว้ในทุกจุด ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่ามาพักที่นี่แล้วจะอ่านหรือพูดภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่อง เพราะจริงๆ การเข้าพักที่นี่เราแทบจะไม่ต้องพบกับพนักงานเลยก็ว่าได้ (หากไม่จำเป็น หรือไม่เจอปัญหาที่ต้องการคนช่วยเหลือ) แค่เพียงดูป้ายและทำตามคำแนะนำของทางโรงแรมก็เรียบร้อย
Smart Check-In
ขั้นตอนการเช็คอินของ Nine hours Hakata station นั้นก็สะดวกสบายมาก โดยเมื่อขึ้นลิฟท์มาถึงบริเวณ Reception ชั้น 9 เราก็จะพบกับเครื่องเช็คอินอัตโนมัติตั้งรออยู่เลย ถ้าเราทำการจองห้องพักตรงกับทางเว็บไซต์ของโรงแรมมาแล้ว ก็กดเลือกภาษาและทำตามขั้นตอนเพียงเท่านั้น เริ่มตั้งแต่การสแกน Passport ไปเรื่อยๆ จนถึงการจ่ายเงินก็เป็นอันเสร็จ ซึ่งที่โรงแรมเค้าไม่รับเงินสดนะ ต้องเป็นพวก E-Payment หรือบัตรเครดิตเท่านั้น อย่างเราก็รูดบัตรเครดิตเอา
แต่ๆๆ บอกเผื่อเอาไว้ก่อนสำหรับคนที่จองผ่าน OTA (Online Travel Agency) เช่น Agoda.com / Booking.com จะไม่สามารถทำการเช็คอินผ่านระบบโดยตรงได้นะ เพราะข้อมูลมันยังไม่ sync กัน ต้องกดปุ่มขอความช่วยเหลือเพื่อเรียกพนักงานก่อน ซึ่งพนักงานเค้าก็จะออกมาเพื่อลิงก์ชื่อของเราที่จองมากับ OTA เข้าสู่ระบบของทางโรงแรมให้ จากนั้นถึงจะสามารถทำการเช็คอินผ่านเครื่องอัตโนมัติได้ต่อตามปกติ พอเสร็จขั้นตอนเครื่องก็จะปริ้นใบเสร็จ พร้อม Key Card ออกมาให้ก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับการเช็คอินของโรงแรมแคปซูลแห่งนี้จะเปิดให้เช็คอินได้ตั้งแต่บ่าย 2 เป็นต้นไป ถ้าใครมาถึงก่อนเวลาก็กดปุ่มเรียกพนักงานเพื่อขอฝากกระเป๋าเดินทางได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย (ถ้าเป็นลูกค้าโรงแรมอยู่แล้ว) ส่วนการเช็คเอ้าท์จะต้องออกภายในเวลา 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น ซึ่งถ้าใครจองแบบพักหลายคืนติดต่อกันเราว่าก็ดูยุ่งยากเหมือนกันนะ คือ กระเป๋าเดินทางยังเก็บไว้ใน Locker หมายเลขเดิมได้ แต่ตัวคนจะต้องออกมาจากตัวแคปซูลที่พักภายในเวลา 10 โมง เพื่อให้แม่บ้านมาทำความสะอาด เรียกว่านอนตื่นสายหรือใช้ห้องยาวๆ ตลอดทั้งวันแบบโรงแรมปกติทั่วไปไม่ได้นั่นเอง ต้องออกมาก่อนระหว่างวันเพื่อให้เค้าทำความสะอาด และกลับมาได้อีกทีบ่าย 2 เป็นต้นไป
ปกติแล้วเรทการจองจะเป็นที่พักอย่างเดียว ไม่รวมอาหารเช้า แต่ทางโรงแรมก็มี Option อาหารเช้าให้บริการด้วยเช่นกัน โดยใครที่จองแบบมีอาหารเช้ามาจะได้ไปทานที่ร้าน CAFFE VELOCE ซึ่งเป็นคาเฟ่ที่อยู่ใกล้ๆ
เมื่อได้ Key Card มาแล้ว ก็จะใช้การ์ดดังกล่าวในการเข้าถึงโซนแคปซูลห้องพักและห้องน้ำ ที่จะมีการแยกโซนของของผู้ชาย และผู้หญิงกันด้วยลิฟท์ตั้งแต่บริเวณทางเข้า แบ่งชั้นแยกกันเลยไม่ปะปนกัน โดย Key Card ผู้ชายก็สามรถแสกนได้แค่ลิฟท์ของฝั่งผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็ได้แค่ฝั่งผู้หญิง ถือว่าปลอดภัยดีสำหรับคนที่เดินทางมาเองคนเดียว
Shower
ตู้ Locker และห้องอาบน้ำจะแยกกันอยู่คนละชั้นกับส่วนของแคปซูลห้องพัก โดยตู้ Locker จะใช้ Key Card ในการเปิด สามารถเก็บกระเป๋าเดินทางขนาด Cabin Baggage ปกติได้สบายๆ (กว้าง 38 ซม .ลึก 59 ซม. สูง 90 ซม.) แต่ถ้าใครใช้กระเป๋าเดินทางไซค์ใหญ่เกินขนาดของล็อกเกอร์อาจจะต้องนำไปฝากกับทางเจ้าหน้าที่แทน
นอกจากนี้ ภายในล็อกเกอร์ยังมีถุง Amenity Kit เตรียมเอาไว้ให้อีกด้วย ภายในถุงจะมีผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า ชุดเสื้อนอน กางเกงนอน (Free Size) แปรงสีฟัน และรองเท้าแตะ เอาไว้ให้ใช้งานระหว่างเข้าพักอีกด้วย ถือว่าครบเซ็ต ไม่ต้องเตรียมอะไรมาเองก็สามารถเข้าพักได้อย่างสบายๆ
ส่วนของห้องอาบน้ำก็จะอยู่ที่ชั้นนี้เลยเช่นกัน เรียกว่าอาบน้ำแต่งตัวเก็บของเข้าล็อกเกอร์ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยขึ้นลิฟท์ไปชั้นห้องพักแคปซูลอีกที โดยภายในห้องอาบน้ำก็จะมีอ่างล้างหน้า เครื่องเป่าผม และห้องสุขาเอาไว้ให้ใช้บริการ ส่วนพื้นที่อาบน้ำจะเป็นห้องขนาดเล็กแบบสมัยใหม่ ไม่ใช่ห้องอาบน้ำรวมสไตล์ญี่ปุ่น สะอาดสะอ้านดี มีโซนเปียกและโซนแห้งสำหรับแต่งตัว น้ำอุ่นดีอาบสบาย มีสบู่เหลว แชมพู ครีมนวด เตรียมไว้ให้พร้อม ไม่ต้องเตรียมอะไรมาเลย
Stay
เนื่องจากเป็นโรงแรมแคปซูล จึงมีที่พักรวมแบบแคปซูลเพียงประเภทเดียวเท่านั้นทั้งโรงแรม โดยส่วนชั้นห้องพักจะเป็นแคปซูล 2 ชั้นเรียงกันเป็นแถว ชั้นนี้จะเงียบๆ ห้ามทานอาหาร ห้ามใช้เสียงหรือใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุยภายในห้องพัก เข้ามาแล้วก็ตรงไปที่แคปซูลตามเบอร์ของตัวเองได้เลย โดยรวมถือว่าสะอาดสะอ้าน อุณภูมิปรับไว้กำลังดี ไม่หนาว ไม่ร้อน เวลาจะนอนก็เลื่อนม่านลงมาปิดได้เพื่อความเป็นส่วนตัว
ขนาดของ Pod แต่ละแคปซูลกว้างและสูง 110 ซม. ลึก 220 ซม. ภายในมีหมอน ผ้าห่ม เตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย บริเวณหัวนอนมีสวิสหรี่ไฟภายในแคปซูล รวมถึงหัวชาร์ท USB Type A ที่เป็นหัวอันใหญ่ๆ แบบปกติ ไม่มีปลั๊กไฟ ถ้าใครใช้มือถือที่ชาร์ทกับ Type C หรือรุ่นอื่นๆ ไม่สามารถใช้ได้นะ เตรียม Power Bank เข้ามาชาร์ทมือถือเองแทนได้เลย
ส่วนตัวคิดว่าภายในแคปซูลคือเหมาะสำหรับมานอนอย่างเดียวจริงๆ อย่างมากก็แค่นอนดูหนังใส่หูฟังส่วนตัวก่อนนอน ถ้ายังไม่ง่วงอยากนั่งเล่นชิวๆ แนะนำให้ไปนั่งเล่นที่เลาจน์ส่วนกลางจะนั่งสบายกว่า และมีปลั๊กไฟให้ด้วย ง่วงแล้วค่อยเข้ามานอนใน Pod แค่นั้นพอ แต่ถ้าถามว่านอนสบายไหม เนื่องจากตัวที่นอนเป็นฟูกบางๆ ไม่ได้สบายอะไรมากนัก นอนไปดึกๆ มีรู้สึกปวดหลังบ้างนิดหน่อย แต่ก็อย่างที่บอก เอาไว้นอนแค่นั้นจริงๆ เน้นง่าย สะดวก ตื่นเช้าก็เช็คเอ้าท์ออกไปทำธุระต่อได้เลย
Lounge
เลาจน์ถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางเพียงส่วนเดียวที่ทุกคนสามารถเข้ามาใช้บริการได้ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีโต๊ะทำงาน มุมนั่งเล่น และคอกกั้นแบบ semi-private ทุกที่นั่งมีปลั๊กไฟเอาไว้ให้ทั้งหมด มี Wifi ฟรี ใช้งานได้ทั้งโรงแรม สามารถเอาอาหารมาทานในห้องนี้ได้ด้วย อย่างช่วงดึกๆ ก็เห็นคนซื้อของกินหรือเบียร์เข้ามานั่งทานกันก่อนเข้านอน
สำหรับบทสรุปของ Nine hours ถือเป็นโรงแรมแคปซูลที่ทันสมัย สะอาด ปลอดภัย และมีมาตรฐานดี โดยโรงแรมของ Nine hours ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง ใกล้สถานีรถไฟ การเดินทางจึงค่อนข้างสะดวกสบาย เหมาะกับคนที่มาเที่ยวแบบ Backpacker มาเที่ยวเองคนเดียวง่ายๆ หรือคนที่ต้องการที่พักราคาประหยัดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง คือเน้นเข้าพักระยะสั้นเพื่อมาพักหรือมาอาบน้ำง่ายๆ แค่นั้นจริงๆ เน้นเที่ยวข้างนอกเยอะ กลับถึงที่พักดึก หรือออกแต่เช้าตรู่ อาหารเช้าไม่เน้น
แต่ถ้ามาเที่ยวกันหลายคน มาแบบครอบครัว ของเยอะ ช๊อปปิ้งเยอะ กระเป๋าใบใหญ่ ไม่แน่นำจริงๆนะ ไม่สะดวกและไม่ตอบโจทย์แน่นอนเพราะเมื่อรวมค่าที่พักสำหรับ 2 คนแล้ว สู้เอาเงินไปรวมกันจ่ายเป็นห้องพักส่วนตัวเพื่อจองโรงแรมแบบพวก Business Hotel ยังจะคุ้มค่ากว่า ดังนั้น เราขอสรุปว่าถ้ามาพักคนเดียว ของน้อย หรือต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินฟุกุโอกะ ถือว่าตอบโจทย์เลยสุดๆ เพราะการเช็คเอาท์ก็ง่าย ไม่ต้องดีลอะไรกับพนักงาน แค่คืนของทุกอย่างใส่ลงในกล่องที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นชุดนอน ผ้าเช็ดตัว Key Card แล้วก็เดินออกจากโรงแรมไปได้เลย แค่ 5 นาทีถึงสถานีฮากาตะ นั่งรถไฟใต้ดินอีกไม่เกิน 10 นาทีถึงสนามบินฟุกุโอกะ สะดวกมาก คุมเวลาอยู่ ไม่ต้องกลัวตกเครื่องแน่นอน
จองห้องพัก Nine hours Hakata station ราคาพิเศษได้ที่นี่
เปรียบเทียบราคาจาก Agoda
Comentarios