[รีวิว] Sartoria By Paulo Airaudo, 56th floor EA Rooftop at The Empire | ซาโตเรียอาร์ บาย เปาโล อายราวโด ที่ ชั้น 56 เอ-ญ่า รูฟท็อป ตึกเอ็มไพร์
- On The Jet Plane

- 30 ก.ย.
- ยาว 3 นาที
อัปเดตเมื่อ 1 ต.ค.

Sartoria By Paulo Airaudo 56th Floor - EA Rooftop at The Empire
อาหารของ Sartoria by Paulo Airaudo ที่ชั้น 56 EA Rooftop at The Empire เข้าถึงง่าย ตอบโจทย์คนรักการรับประอาหารที่ชื่นชอบความสวยงามและรสชาติที่หรูหราได้เป็นอย่างดี วันนี้เรามาทานอาหารสไตล์ Italian - Thai Twisted จากฝีมือของ "เชฟ Paulo Airaudo" ที่ครอง ดาวมิชลินทั่วโลกเอาไว้มากถึง 6 ดวง จากทั้งหมด 14 ร้านอาหาร และ Sartoria ที่กรุงเทพมหานคร ยังนับเป็นร้านแห่งแรกของเชฟ Paulo ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย

“แม้จะไม่ได้เป็นแฟนอาหารอิตาเลี่ยนสักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะ Sartoria จะทำให้คุณจะหลงรักมื้อนี้และคิดถึงไปอีกพักใหญ่เลยล่ะ”


Sartoria by Paulo Airaudo
เสิร์ฟอาหารสัญชาติอิตาเลี่ยนที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นและไทยมา Twist เพียงเล็กน้อย โดดเด่นในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบของแต่ละฤดูกาลมาทำให้ทุกจานดูครบเครื่อง ไล่ระดับรสชาติตั้งแต่จานไปแรกจนถึงจานสุดท้ายได้สมบูรณ์แบบ และกะเวลาเสิร์ฟได้แม่นยำ รวมถึง Sommelier ของ Sartoria ก็คัดสรรเครื่องดื่มให้เข้ากับมื้ออาหารได้อย่างลงตัวช่วยให้ทุกจานน่าประทับใจยิ่งขึ้น

ไฮไลท์น่าประทับใจ ของ Sartoria ที่ EA Rooftop โดดเด่นทั้งบรรยากาศและอาหาร
วิวสวยๆ บนชั้น 56 จาก EA Rooftop at The Empire หรูหราตั้งแต่ทางเดินขึ้นลิฟต์จวบจนทางเดินเข้าร้าน ภายในร้านตกแต่งด้วยกระจกบานใหญ่เห็นวิวสูงของกรุงเทพและแม่น้ำเจ้าพระยา จัดที่นั่งให้ทุกโต๊ะรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวกับบรรยากาศสุดโรแมนติกแบบที่หาจากร้านอื่นไม่ได้

Sartoria Signature Risotto สีเขียวมรกตสะดุดตา พร้อมกับเนื้อกุ้ง Carabineros สีแดงสวยแวววาวดุจอัญมณี หรืออีกชื่อเรียกว่า 🦐 Scarlet Prawns ซึ่งถือเป็นกุ้งที่แพงที่สุดในโลก มีขนาดความยาวตัวอย่างต่ำราว 10 นิ้ว เพียงแค่ชิมด้วยตาก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว

Snacks เสิร์ฟ 🫛 Tear Peas ถั่วที่ขึ้นชื่อว่าเป็น Caviar ของวงการผัก เก็บเกี่ยวได้แค่ช่วงระยะเวลาสั้นๆ ของปี แถมมีเนื้อสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนถั่วชนิดอื่น ข้างนอกกรุบกรอบ กัดแล้วได้ยินเสียงดังเป๊าะของความสดที่ใครต่างก็ทราบดีว่า Tear Peas เก็บรักษาได้ยาก กลิ่นจะไม่มีความเหม็นเขียวหรือขมไหม้ ให้ความรู้สึกคล้ายเวลากัดเม็ดคาเวียร์เสียมากกว่า

สุดท้ายสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย 🫒 คือน้ำมันมะกอกของ Sartoria ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับร้านอาหารทั้ง 14 แห่ง ทั่วโลกของเชฟ Paulo Airaudo มีความสดชื่นและกลมกล่อม กลิ่นหอมชัดเจนมากๆ ช่วยทำให้เพลิดเพลินกับอาหารมื้อนี้ยิ่งขึ้นไปอีก

วันนี้เลือกทาน L'ESSENZA 6 courses พร้อม Pairing เครื่องดื่ม 6 แก้ว
🍽️ L'ESSENZA 6 Courses 3,980++
🍷 Wine Pairing 6 แก้ว 3,800++

Consomme
Leek | Spring Onions
เปิดคำแรกด้วยซุปใส ได้รสชาติหอมหวานสดชื่นจากต้นกระเทียมและต้นหอม
Drink 1 : Sparkling Wine จากฝรั่งเศส สดชื่น หอมแอปเปิ้ลเขียว และซิตรัส

Snacks
Mortadella | Pistachio
มูสมอเตอเดล่า ทำจากหมูและพิสตาชิโอ เสิร์ฟมาในโคนเล็กๆ น่ารัก รสชาติครีมมี่กำลังดีไม่เหม็นกลิ่นไขมันหมูเลย ได้รสสัมผัสกรุบกรอบเบาๆ ของถั่วพิสตาชิโอที่โรยมาด้านบนและตัวโคนด้วย อยากให้สั่งเพิ่มได้
Snow Crab | Yuzu | Tear Peas
ทาร์ตถั่ว Tear Peas เมล็ดเงาสวยกรุบกรอบ กับปูหิมะเนื้อหวานและความสดชื่นจากยูซุ ที่ไม่มีอะไรแย่งซีนกันเลย คำนี้ยูซุช่วยชูรสหวานของ Snow Crab และความสดชื่นของ Tear Peas ได้เป็นอย่างดี

The Bread - ขนมปัง 3 ชนิด
Grissini | Focaccia | Sour Dough
Grissini
ขนมปังแท่งเรียวยาว สัมผัสกรุบกรอบ หอมกลิ่นเครื่องเทศสไตล์อิตาเลี่ยน
Focaccia
ขนมปังโพรงใหญ่ กลิ่นหอมน้ำมันมะกอกชัด เข้ากับอาหารทุกจานและเครื่องดื่มมากๆ ด้านหน้าจะเป็นมะเขือเทศและมะกอกดำ
Sourdough
ขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติของ Sartoria จะไม่ออกเปรี้ยวมาก เนื้อนุ่มเปลือกกรอบตามมาตรฐาน รายการนี้สามารถขอเพิ่มได้ตามต้องการ
เชื่อว่าหากทางร้านอบ Ciabatta เสิร์ฟด้วย คงจะต้องเป็นเมนูขนมปังสัญชาติอิตาเลี่ยนที่ถูกพูดถึงอย่างมากเหมือน Focaccia ของ Sartoria แน่นอน


Hamachi
Kohlrabi | Radish | Shiso | Seagrape
ปลาฮามาจิวางเรียงสลับกับ Radish ออกมาเป็นรูปดอกไม้สวยงาม ที่มองดูแล้วเหมือนงานศิลปะเสียมากกว่าอาหารคาว รสชาติเปรี้ยวเค็มอ่อนๆ และยังได้กลิ่นหอมจาก Shiso Oil เบาๆ ด้วย
Drink 2 : White Wine จากอิตาลี หอมไวท์พีช ผิวเลม่อน รสชาติสดชื่น


Duck Cappelletti
Thyme | Duck Jus
พาสต้ารูปทรงเกี๊ยวแป้งเนื้อหนึบสอดไส้เป็ดกงฟีที่ผ่านการตุ๋นด้วยน้ำมัน กัดคำแรกจะเจอกับเนื้อเป็ดที่นุ่มจนละลายในปากได้ในทันที วางมาบนซอสที่มีความหอมของเนยและใบไทม์ ราด Duck Jus ซอสเข้มข้นที่ได้จากการเคี่ยวจากกระดูกเป็ด เมื่อจับคู่กันกับ “Pairing Drink สีแดง” ที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดี ยิ่งทำให้ได้กลิ่นหอมของเนยชัดยิ่งยวดขึ้นแบบทวีคูณในทุกลมหายใจ
Drink 3 : Red Wine จากอิตาลี สัมผัสค่อนข้างเบาแต่ยังให้ความ Oaky นิดๆ

Risotto
Carabineros | Parsley | Kumquat
ขอยกให้เป็นอันดับหนึ่งในใจ ขณะนี้ยังคงไม่เจอที่ไหนปรุงทั้งรสชาติและรสสัมผัสได้ถูกใจเท่านี้ ริซอตโต้อาหารประจำชาติของชาวอิตาเลี่ยน ที่จำเป็นต้องใช้ข้าวพันธุ์พิเศษจากอิตาลี ที่มีลักษณะป้อมและแข็ง มาทำให้สุกด้วยการผัดกับน้ำสต็อกและไวน์ พร้อมเครื่องปรุงอื่นๆ แล้วแต่สูตรประจำบ้านจนมีความเหนียวข้น ครีมมี่ ละมุนลิ้น จานนี้ Sartoria ใช้ Parsley เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับปรุงรสตัวข้าว ทำให้ได้ทั้งสีเขียวสวย ได้ความครีมมี่ที่กำลังดีไม่เลี่ยนเลย ด้านบนวางกุ้ง Carabineros เนื้อกุ้งรสชาติเข้มข้น แน่นหนึบ กลิ่นคล้ายเนย ไม่ออกรสเค็มหรือมีกลิ่นทะเลแรงแบบ Lobster เข้ากันกับริซอตโต้ที่มีความครีมมี่ หอมมัน ทานคู่กับส้ม Kumquat แผ่นบาง เพิ่มความสดชื่นประหนึ่งนั่งพักผ่อนอยู่ชายฝั่งแถบเมดิเตอร์เรเนียน คงดีไม่น้อยหากจานนี้อยู่ในรายการที่สามารถสั่งเพิ่มได้
Drink 4 : White Wine จากเยอรมัน ให้กลิ่นหอมของดอกไม้เบาๆ พร้อมความเปรี้ยวกำลังดี

Kinmedai
Foie gras | Parsnip | Champagne sauce
ปลา Kinmedai ตากลมโตหนังสีแดงส่งตรงจากญี่ปุ่น นำมาดรายเอจต่อจนได้เนื้อสัมผัสที่เฟิร์มและรสชาติที่ชัดขึ้นเพื่อทานคู่กับแชมเปญซอสรสชาติหอมหวาน ไฮไลท์ของจานนี้ส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังที่กรอบ หอม อร่อย ในรูปแบบที่ปลาอื่นๆ ให้ไม่ได้ เนื้อสัมผัสที่แสนอร่อยนี้ได้มาจากเทคนิคการย่างอย่างพิถีพิถัน และโต๊ะที่เรานั่งวันนี้สามารถมองเห็นเชฟกำลังปรุงอาหารได้แทบจะทุกขั้นตอน
Drink 5 : White Wine จากญี่ปุ่น ตัวนี้เราค่อนข้างประหลาดใจเพราะไม่เปรี้ยวแหลมเหมือนสไตล์ญี่ปุ่นที่คุ้นชิน แก้วนี้ให้ Spice Balance ที่ลงตัวพอเหมาะกับปลาย่างหอมๆ เข้ากับอาหารรสเค็มได้เป็นอย่างดี

Piña Colada
Pine Apple | Coconut | Coriander
ของหวานที่เป็นการรวมตัวของไอศกรีมมะพร้าว ซอสสับปะรด และตูเล่ผักชี รสหวานอมเปรี้ยว มอบความรู้สึกสดชื่นราวกับกำลังจิบทรอปิคอลค็อกเทลที่เหมาะเจาะกับอากาศเมืองไทยเป็นที่สุด แนะนำควรจับคู่กับเครื่องดื่มแก้วสุดท้ายที่ทางร้าน Matchให้เพื่อเพิ่มมิติให้รสชาติของ Piña Colada จานนี้ออกมากลมกล่อมยิ่งขึ้น
Drink 6 : Sparkling Wine หวานเพียงเล็กน้อยกำลังดี ช่วยให้เราที่ไม่ถนัดการทานสับปะรดและมะพร้าวจัดการของหวานจนหมดจานแบบไร้ที่ติ

Petit Four
Signature - Darth Vader Whiskey Gum
กัมมี่เคี้ยวหนึบ กลิ่นวิสกี้หอมแน่นรูป “ดาร์ธ เวเดอร์” คาแรคเตอร์โปรดของเชฟเปาโล
Chocolate Cookies
สอดไส้ Chocolate Ganache มีส่วนผสมของ Salted Caramel และ Hazelnut
Rosella Choux
ชูจากกระเจี๊ยบไทย ด้านในสอดไส้แยมราสป์เบอร์รี่
Bon Bon Chocolate
ช็อคโกแลตบอนบอน สอดไส้ครีมทิรามิสุ

Menu Option
🍽️ L'ESSENZA:
เซตเมนู 6 คอร์สสุดพิเศษ ในราคา 3,980++ บาท
🍽️ L'OPERA COMPLETA:
เซตเมนู 8 คอร์สแห่งความสมบูรณ์แบบ ในราคา 5,980++ บาท
🍷 Wine Pairing ที่ได้รับการคัดสรรมาจับคู่กับอาหารอย่างลงตัวในราคา
2,600++ บาท (4 แก้ว) หรือ ราคา 3,800 บาท (6 แก้ว)

แนะนำสั่งคอร์สอาหารร่วมกับเซ็ต เครื่องดื่ม 6 แก้ว รับรองว่าอาหารที่กลมกล่อมอยู่แล้วจะระเบิดรสชาติออกมาได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า และที่สำคัญจองรอบ 18:00 น. ได้ดูพระอาทิตย์ตกยามเย็นพอดี ถือเป็นมื้ออาหารสำหรับจบวันที่ Flawless เลยทีเดียว

ขออนุญาตสรุปการรับประทานอาหารวันนี้ หากมีคนถามว่า Fine Dining ครั้งแรก ที่ไหนดี? เดทแรกไปไหนดี? ฉลองวันเกิดทานอะไรดี? Sartoria คงเป็นร้านแรกที่เรานึกถึงในแง่ของความประทับใจและความคุ้มค่าว่าเหมาะกับทุกการเฉลิมฉลอง
Contact Details:
Sartoria by Paulo Airaudo (ซาโตเรียอาร์ บาย เปาโล อายราวโด)
ชั้น 56 EA Rooftop at The Empire
เปิดทุกอังคาร - อาทิตย์ 18:00 - 22:30 (รอบสุดท้าย 20:30)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร +66 (0)2 407 1654
—--------------------------------------
EA Rooftop at The Empire เพิ่งครบรอบ 1 ปี เดือนนี้ (กันยายน 2568)
ส่วนตัวไปมาแล้วทุกร้านทั้งกลางวันและกลางคืน EA Rooftop ประกอบไปด้วย Nobu Bangkok (ที่สูงที่สุดในโลก), Sartoria by Paulo Airaudo, Le Du Kaan และ K by Vicky Cheng ทุกร้านเปิดโดยเชฟชื่อดังระดับโลก ซึ่งแต่ละร้านมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัดแม้จะอยู่บนตึกเดียวกันก็ตาม สำหรับเรา EA จึงกลายเป็น Rooftop ที่มาซ้ำได้บ่อยทั้งในวันธรรมดาและในโอกาสพิเศษ

Nobu Bangkok
โนบุสาขาที่สูงที่สุดในโลก Vibes ดี อยู่บนชั้นสูงสุดของ The Empire ได้วิวแบบ Panoramic มีซิกเนเจอร์ที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ร้านอาหารทั่วโลกอย่าง Black Cod Miso

Sartoria by Paulo Airaudo
ร้านที่ควรลองให้ได้ซักครั้ง ดินเนอร์ที่เปี่ยมไปด้วยวัตถุดิบหรูหราและอาหารที่เหมือนผลงานศิลปะ

Le Du Kaan
ไปได้บ่อยไม่เบื่อ บรรยากาศสนุกสนาน มี DJ เปิดเพลงทุกคืน พื้นที่ Rooftop Outdoor ขนาดใหญ่ เสิร์ฟอาหารไทยและเครื่องดื่มจากวัตถุดิบท้องถิ่น

K by Vicky Cheng
อาหารรสจัดจ้านทานซ้ำได้ตลอด ทุกจานเข้าถึงง่าย เสิร์ฟจานเล็กๆ เยอะ ไปคนเดียวก็เหมาะ เมนูผัดหนำเลียบและ Stuffed Crab Shell ไม่ควรพลาด
_edited.png)
![[รีวิว] ห้องอาหาร Jurassic World: The Experience - Fossil & Flame Restaurant เอเชียทีค | Asiatique The Riverfront Destination](https://static.wixstatic.com/media/ab4a86_bfaffa350a744af0bb741d94b4c8df7d~mv2.jpg/v1/fill/w_980,h_551,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/ab4a86_bfaffa350a744af0bb741d94b4c8df7d~mv2.jpg)
![[รีวิว] The Okura Prestige Bangkok ห้อง Imperial Suite สัมผัสความหรูหราสไตล์ญี่ปุ่นใจกลางเมืองกับห้องพักที่ใหญ่และแพงที่สุดที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ](https://static.wixstatic.com/media/ab4a86_68c0d75cb0924dd69a34a14dd08baa1a~mv2.jpg/v1/fill/w_950,h_497,al_c,q_85,enc_avif,quality_auto/ab4a86_68c0d75cb0924dd69a34a14dd08baa1a~mv2.jpg)
![[รีวิว] Sunday Seafood Brunch Buffet - Capella Bangkok เต็มอิ่มกับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดซันเดย์บรันช์ ห้องอาหาร Phra Nakhon โรงแรมคาเพลลา กรุงเทพ กับโปร AMEX Platinum 1 for 1 มา 2 จ่าย 1](https://static.wixstatic.com/media/ab4a86_6ed0033fb29d494bb11257dcde746f9b~mv2.jpg/v1/fill/w_950,h_497,al_c,q_85,enc_avif,quality_auto/ab4a86_6ed0033fb29d494bb11257dcde746f9b~mv2.jpg)